เรื่องน่ารู้ก่อนฉีดโบท็อก มีเรื่องอะไรบ้างมาติดตามอ่านกัน!

          ในยุคปัจจุบัน... การเสริมเติมความสวยงามให้กับผิวพรรณของตัวเองนั้น ดูเหมือนจะมีวิธีการมากมายหลากหลายให้เลือกสรร มีทั้งวิธีเจ็บตัว และไม่เจ็บตัว ตั้งแต่การใช้ครีมบำรุงผิว ไปจนถึงการผ่าตัดศัลยกรรมแบบยกชุด ซึ่งการฉีด โบท็อก เอง ก็นับว่าเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงาม ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน แต่ก่อนที่คุณผู้อ่านจะทำการตัดสินใจ เสริมความงามให้กับตัวเองด้วยการฉีด โบท็อก ขอแนะนำให้ลองอ่านบทความชิ้นนี้กันก่อนครับ

โบท็อกคืออะไร มีประวัติความเป็นมาทางการแพทย์อย่างไรบ้าง?

 “โบท็อก” เป็นชื่อทางการค้ามีชื่อเต็มๆว่า “Botulinin Toxin” ซึ่งเป็นสารโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง คือ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) ทั้งนี้ ในทางการแพทย์เป็นที่ทราบกันดีว่าโบท็อก คือสารจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ ที่แม้จะสกัดจากแบคทีเรีย แต่ก็สามารถสร้างประโยชน์ทางการแพทย์ได้

ในยุคแรกมีการนำโบทูลินั่มท็อกซินมาฉีดรักษาโรคตาเหล่ ตาเขโดยจักษุแพทย์ และด้วยความบังเอิญทำให้แพทย์พบว่าริ้วรอยบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว รวมถึงรอบดวงตาดีขึ้น ซึ่งค้นพบว่าสารโบท็อกออกฤทธิ์ยับยั้งการนำกระแสประสาทที่ส่งมายังกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง เกิดการคลายตัวผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อ จึงเรียบและไม่มีรอยย่น ส่วนการทำงานด้านอื่นๆของเส้นประสาท เช่น การรับรู้ความรู้สึกต่างๆก็จะเป็นปกติ ซึ่งโบท็อกมีทั้งหมด 7 ชนิด ตั้งแต่ A-G แต่ชนิด A เป็นชนิดที่ออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดในมนุษย์ การฉีดโบท็อกโดยทั่วไปที่ใช้ในแวดวงความงามจึงใช้ชนิด A เป็นสารฉีดเข้าสู่ร่างกาย

ฉีดโบท็อกให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าซิลิโคนอย่างไร ?

จริงอยู่ที่การฉีดซิลิโคนนั้นประหยัดงบประมาณมากกว่า เพราะฉีดแค่ครั้งเดียวก็สามารถอยู่ไปได้ตลอดชีวิต แต่ต้องบอกเป็นความรู้สำหรับผู้ที่อยากสวยอยากหล่อไว้เลยว่าการฉีดซิลิโคนไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากถ้าซิลิโคนเน่าเสียขึ้นมาจะยุ่งกันไปใหญ่ เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ สำหรับการฉีดโบท็อก ถ้าผลลัพธ์ที่ได้ หน้าไม่สวย เกิดอาการบวม ตก หรืออื่นๆ ข้อดีก็คือมันหายได้

สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อก ผศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา แพทย์ประจำศูนย์เลเซอร์ผิวหนังและศัลยกรรมผิวหนัง ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า หลังการฉีดโบท็อกซ์อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนได้ เช่น หนังตาบนตก คิ้วตก มุมปากตก รูปปากเบี้ยว รอยจ้ำเลือดในตำแหน่งที่ฉีดโบท็อก การเกิดภูมิต้านทานต่อโบท็อก และอาจพบอาการตาแห้งได้ ดังนั้นแพทย์ที่ใช้ควรมีความรู้ความเข้าใจทางเภสัชวิทยาของโบทูลินัมท็อกซิน ควรรู้วิธีผสมยา การรักษาที่ถูกต้อง ที่สำคัญควรมีความรู้พื้นฐานทางกายวิภาคของกล้ามเนื้อแต่ละมัด ตลอดจนเทคนิคการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลการรักษาเกิดประโยชน์สูงสุดและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด

คนมีอาการแบบใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อก ?

สำหรับคนที่ห้ามฉีดสารโบท็อกเข้าสู่ร่างกายอันดับแรกคือผู้มีประวัติภูมิแพ้อย่างรุนแรงต่อโบทูลินัมท็อกซิน ฉะนั้น ก่อนฉีดโบท็อกต้องตรวจสอบให้แน่ใจ นอกจากนี้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร ผู้มีความผิดปกติของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และผู้มีปัญหาเลือดออกง่ายผิดปกติ หรือกำลังกินยาที่มีผลทำให้เลือดออกแล้วหยุดยากก็ห้ามฉีดโบท็อกโดยเด็ดขาด

จากข้อมูลในเบื้องต้น จะเห็นได้ว่า การฉีด โบท็อก นั้น มีทั้งข้อดี และข้อเสีย เสมือนกับเหรียญสองด้าน ดังนั้น ก่อนที่จะทำการเติมสวยให้กับตัวเอง ควรพิจารณาตัวเองให้ถี่ถ้วน และปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย ว่ามีความเหมาะสมต่อการฉีด โบท็อก หรือไม่ครับ

แบ่งปัน: