หมาเป็นเชื้อรา Blastomycosis การดูแล ป้องกัน รักษาอย่างถูกวิธี
เชื้อรา Blastomycosis ในหมา สาเหตุและวิธีการรักษาอย่างเหมาะสม
หมาเป็นเชื้อรา เป็นหนึ่งในโรคที่สามารถพบบ่อยๆในสุนัขบ้านเรา และมักจะก่อให้เกิดปัญหาโดยเฉพาะโรคผิวหนังที่มีหนองร่วมด้วยบ่อยๆ ซึ่งเป็นโรคที่ควรใส่ใจ และไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง สำหรับใครที่กำลังสนใจหาวิธีป้องกัน รักษา และทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้หมาเป็นเชื้อรา สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย
หมาเป็นเชื้อรา เกิดขึ้นจากสาเหตุใด?
หมาเป็นเชื้อรา โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากเชื้อรา Blastomycosis ซึ่งเป็นเชื้อรา yeastlike ระบบที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่สามารถพบได้บ่อย และทั่วไปในเนื้อไม้, ดิน เชื้อราชนิดนี้มักส่งผลกระทบได้บ่อยที่สุดกับสุนัขเพศผู้ และสุนัขเพศเมียที่มีสุขภาพอ่อนแอ อาการหมาเป็นเชื้อราจะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น ถ้าหากสุนัขของคุณสัมผัสบ่อยครั้งกับสภาพแวดล้อมที่มีเชื้อราแฝงตัวอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่น้ำหนักมากกว่า 25 กก. ขึ้นไป
เชื้อรา Blastomycosis สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ หนองน้ำ ดินที่ชื้นเฉพาะขาดการส่องจากแสงแดดโดยตรง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบริเวณที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา เช่น ป่า ขอนไม้ และฟาร์ม จากการศึกษาพบว่าหมาเป็นเชื้อราจากเชื้อราตัวนี้ มักจะอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำอย่างน้อย 400 เมตร
สปอร์ของเชื้อราในอากาศ พืช และสัตว์ เมื่อเข้าไปทำการเปื้อนในพื้นดิน หากสุนัขทำการขุดพื้นดินในบริเวณดั่งกล่าว หรือทำการดมตามรอยกลิ่น จะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น นอกจากนี้สปอร์ยังสามารถซึมผ่านผิวหนังจากการสัมผัสกับน้ำ หรือดินที่ถูกขุดขึ้นมา ซึ่งยิ่งสุนัขทำพฤติกรรมเหล่านั้นมากเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นการเสี่ยงต่อโรคหมาเป็นเชื้อรามากขึ้นเท่านั้น
อาการของหมาเป็นเชื้อรา Blastomycosis
1.มีไข้
2.มีอาการเบื่ออาหาร
3.น้ำหนักลดลง
4.ตาปรือ
5.ตาอักเสบ โดยเฉพาะบริเวณม่านตา
6.หายใจลำบาก มักมีอาการไอ หายใจผิดปกติ และอื่นๆ
7.รอยโรคผิวหนัง ซึ่งมักจะมีอาการร่วมของหนองบ่อยครั้ง
การรักษาโรคหมาเป็นเชื้อรา
การรักษาอาการหมาเป็นเชื้อรา เป็นสิ่งที่ต้องให้ความระมัดระวัง เพราะการวินิจฉัยที่ผิดพลาดว่าสุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรือการติดเชื้อที่ปอด แล้วทำการรักษาด้วยยาปฎิชีวนะ จะทำให้สุนัขเกิดความเสี่ยง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคืออย่าวินิจฉัยด้วยตัวเอง แต่ควรนำพาสุนัขไปพบกับสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด
เมื่อสัตว์แพทย์ตรวจพบว่าสุนัขของคุณเป็นเชื้อรา คุณจะได้รับยาต้านเชื้อราที่มีราคาค่อนข้างแพง สุนัขจำเป็นที่จะต้องได้รับยาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 60 วัน หรือ 1 เดือน สุนัขอาจจะมีอาการหายใจได้อย่างยากลำบาก บางตัวอาจจะมีอาการหนักจนจำเป็นที่จะต้องให้ออกซิเจนเสริมจนกว่าอาการจะดีขึ้น
การให้ยาอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการจำกัดกิจกรรมออกกำลังกายของสุนัข จะช่วยหลีกเลี่ยงอาการปอดถูกรัด และควรให้สุนัขรับประทานอาหารที่มีคุณภาพสูงเพื่อกระตุ้นความอยากอาหารของสุนัข แต่อย่างไรก็ตาม แม้การดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิดจะเป็นสิ่งที่ดี แต่โรคหมาเป็นเชื้อรานี้สามารถแพร่จากสัตว์มาสู่คนได้ ผ่านแผลกัด หรือสัมผัสกับเชื้อราโดยตรงเช่นกัน
การป้องกันไม่ให้สุนัขเป็นโรคเชื้อรา
ควรให้สุนัขของคุณหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยไม้ผุ ฟาร์ม พื้นที่ป่า ดินที่ยังชื้นอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่ได้สัมผัสกับแสงแดดเลย ทะเลสาบ ลำธาร แต่อย่างไรสปอร์ของเชื้อรามักจะมีการกระจายตัวไปตามอากาศในขณะช่วงเวลาที่อากาศแห้ง ท่ามกลางฝุ่นละอองจากน้ำหนักที่เบา ทำให้มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันสุนัขของคุณอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามคุณก็ยังช่วยลดความเสี่ยงของสุนัขได้หากทำตามคำแนะนำที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น